โบสถ์แม่พระบังเกิด

โบสถ์นี้เป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของคริสศาสนิกชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 (ค.ศ. 1890) โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ได้รับทุนสนับสนุนจากญาติพี่น้องของท่านในประเทศฝรั่งเศส คณะมิซซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส กรุงโรม และผู้ใจบุญในกรุงเทพฯ ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของประเทศฝรั่งเศส ฉาบด้วยปูนดำ ภายในประดับด้วยภาพกระจกสีสวยสดงดงาม มีรูปปั้น ธรรมาสน์เทศน์ อ่างล้างบาป ขาเทียนลักษณะต่างๆ และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์ในคริสศาสนา นับเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามที่อยู่ไม่ไกลจากริมฝั่งแม่น้ำ การเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมต้องขออนุญาิจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า เพื่อติดต่อวิทยากรในการบรรยายได้ที่ โทร. 0 3476 1347 เครดิตภาพ : Rinsa Yoyolive

วัดบางกระพ้อม

สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในผนังวิหารเก่าด้านบนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แตกต่างจากทั่วไปคือ เป็นปูนปั้นลลวดลายนูนแสดงเรื่องราวพุทธประวัติ ผนังวิหารด้านล่างโดยรอบมีช่องเจาะเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป กลางวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่ซ้อนกัน 4 รอย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงธนบุรี

วัดภูมรินทร์กุฏีทอง

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ กุฏีทองคำทำด้วยไม้สัก ประวัติเล่าว่า เศรษฐีบิดาของคุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) ให้สมภารวัดบางลี่ตรวจดวงชะตา สมภารว่าจะได้เป็นถึงราชินี เศรษฐีบิดาคุณนาคจึงให้คำมั่นว่า ถ้าเป็นจริงจะสร้างกุฏีทองุถวายให้วัดบางลี่ จึงได้ชื่อว่าวัดบางลี่กุฏีทอง ต่อมาน้ำเซาะที่ดินพังลง จึงรื้อมาสร้างไว้ที่วัดภุมรินทร์ วัดนี้จึงได้ชื่อว่าวัดภุมริทร์กุฏีทอง เครดิตภาพ : http://chaiwat6456.blogspot.com/

วัดบางแคใหญ่

สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2337 พระอุโบสถหลังใหญ่อายุกว่า 150 ปี ด้านหน้ามีเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา พระประธานปางมารวิชัย สร้างจากศิลาแลง มีธรรมเจดีย์ 7 องค์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2415 มีกำแพงแก้วล้อมรอบ และบนฝาประจัน (ฝากั้นห้อง) กุฎิสงฆ์ มีภาพจิตรกรรมที่เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาวเป็นเรื่องราวการรบระหว่างไทยกับพม่า เครดิตภาพ : @japanyeepun

วัดบางแคน้อย

วัดบางแคน้อยตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง โดยคุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2411 เดิมอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ ต่อมาพระอธิการรอด เจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ได้สร้างอุโบสถบนพื้นดิน ในปี พ.ศ. 2418 ต่อมาอุโบสเดิมได้ชำรุดทรุดโทรม พระอธิการเขียว เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 ได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2492 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2540 อุโบสถหลังเดิมก็ได้เกิดชำรุดขึ้นอีก เนื่องจากขาดแคลนวัสดุที่มีคุณภาพ เพราะตอนสร้างอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระครูสมุทรนันทคุณ (แพร) จึงได้ดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น อุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่นี้ภายในจะเป็นไม้สักแกะสลักเรื่องราวในพุทธประวัติ ลวดลายสวยงามชัดเจนยิ่งนัก โดยช่างฝีมือเอกจากจังหวัดเพชรบุรี เครดิตภาพ : ilovetogo.com

วัดบางกุ้ง

ตั้งอยู่ที่อำเภอบางคนที บริเวณเดียวกับค่ายบางกุ้ง ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมด้วยเหล่าทหารหาญได้ประกอบวีรกรรมอันหาญกล้า ต่อสู้กับพม่าข้าศึกที่รุกรานประเทศสยามจนได้รับชัยชนะที่ค่ายบางกุ้งแห่งนี้ ภายในวัดบางกุ้งมีโบสถ์เก่าแก่เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อโบสถ์น้อย ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ นอกจากนี้บริเวณรอบนอกของโบสถ์ยังถูกปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อีกด้วย เครดิตภาพ : chillpainai.com

วัดอัมพวันเจติยาราม

ตั้งอยู่ติดกับอุทยาน ร.2 เป็นวัดของตระกูลราชินิกุลบางช้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังวัดแห่งนี้เคยเป็นนิวาสสถานของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และคุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันเจติยาราม ยังเป็นที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 อีกด้วย เครดิตภาพ : wikimedia.org

วัดจุฬามณี

วัดจุฬามณีเป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวา ต่อเนื่องกับคลองผีหลอก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่า ท้าวแก้วผลึก (น้อย) นายตลาดบางช้าง ต้นวงศ์ราชินีกุลบางช้างเป็นผู้สร้างขึ้น บริเวณหลังวัดเดิมเป็นนิวาสสถานของคุณนาคและคุณบุญรอด (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรามราชินีในรัชกาลที่ 1 และ 2) มีพระเกจิอาจารย์ดังคือหลวงพ่อเนื่อง โกวิโท ศิษย์เอกของหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อมซึ่งมรภาพแล้วศพไม่เน่าเปื่อย บรรจุอยู่ในโลงแก้วในศาลาทรงไทยไม้สักลงรักปิดทอง นอกจากนั้นพระอุโบสถจัตุรมุขยังสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยานฯ ร.2) เป็นโครงการเฉลิมพระเกียร์ติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลก จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งโลก (UNESCO) ที่ได้พระราชทานศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแห่งชาติ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดอัมพวันเจติยาราม ในพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ ได้ถูกจัดแบ่งออกเป็นส่วนๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทย 4 หลัง แบ่งออกเป็นส่วนๆ ได้แก่ หอกลาง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ยังมีสวนพฤษชาติ โรงละครกลางแจ้ง อีกด้วย เครดิตภาพ : samutsongkhram.mots.go.th

ป่าชายเลนคลองโคน

ชาวบ้านได้รับแนวความคิดการปลูกและการอนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคลน เนื่องมาจากการที่กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปลูกป่าร่วมกับชาวบ้านในปี พ.ศ. 2540-2542, 2545 และปี 2547 ทำให้ป่าชายเลนคลองโคนมีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้นซึ่งต่อมามีการดำเนินการในลักษณะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยกลุ่มชาวบ้านจะจัดเตรียมเรือหางยาว กล้าไม้ กระดานเลน และอุปกรณ์ปลูกไว้บริการ เครดิตภาพ : tiewpakklang.com

ดอนหอยหลอด

ดอนหอยหลอด เป็นสันดอนปากน้ำแม่กลองที่เกิดจากการตกตะกอนของดินปนทราย (ชาวบ้านเรียก ทรายขี้เป็ด) มีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร มี 2 แห่ง คือ ดอนนอก อยู่บริเวณปากอ่าวแม่กลอง เดินทางไปได้โดยทางเรือ ส่วนดอนใน อยู่ที่ชายหาดหมู่บ้านฉู๋ฉี่ ตำบางบางจะเกร็ง และที่ชายหาดหมู่บ้านบางบ่อ ตำบลบางแก้ว สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ บริเวณสันดอนนี้มีหอยอาศัยอยู่หลายชนิด ได้แก่ หอยลาย หอยปุก หอยปากเป็ด หอยแครง และโดยเฉพาะหอยหลอด ที่หมู่บ้านฉู่ฉี่บริเวณใกล้เคียงกับดอนหอยหลอดยังเป็นที่ตั้งศาล “กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์” ให้เราได้สักการะบูชา่อีกด้วย